ย้อนรอย “เที่ยวบินผีสิง” เหตุการณ์เครื่องบินตกที่เต็มไปด้วยปริศนาเมื่อปี 2005
"GHOST PLANE" คำนี้มีที่มาจากโศกนาฏกรรมลึกลับของ เที่ยวบิน 522 สายการบิน เฮลิโอส แอร์เวย์ (Helios Airways)
ที่เรียกกันเช่นนั้น ก็เพราะช่วงที่ทางการยังไม่สามารถหาคำตอบของสาเหตุการตกได้ นอกจากองค์ประกอบอื่นๆ ในเหตุการณ์ เช่น ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด สลบไสลคาหน้าหากออกซิเจน และชายปริศนาที่อยู่ในห้องนักบิน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สลบ ก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะลงไปโหม่งโลกพังยับไปเป็นจุณต่อหน้าต่อตานั้น
มันช่างลึกลับดำมืด หาสาเหตุไม่เจอ ทิ้งปริศนาไว้ จนหลายคนอดเรียกว่าเป็นเที่ยวบินผีสิงไม่ได้นั่นเอง
เล่าย้อนไปในวันเกิดเหตุร้ายครั้งนั้น วันที่ 14 สิงหาคม ปี 2005 สายการบิน เฮลิโอส แอร์เวย์ (Helios Airways) เป็นสายการบินต้นทุนต่ำของเกาะไซปรัส บินระหว่างเกาะไซปรัสและหลายๆ ประเทศในยุโรป พร้อมกับ ผู้โดยสาร 115 คน และลูกเรืออีก 6 คน และนี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดในวันนั้น
ผ่านไปหลายนาที ในระหว่างที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับความสูง อยู่ดีๆ สัญญาณเตือนก่อนขึ้นบินก็ดังขึ้น ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่นักบินเป็นอย่างมาก เพราะปกติสัญญาณเตือนก่อนขึ้นบินจะดังเมื่อเครื่องบินยังอยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ทำไมถึงมาดังตอนเครื่องบินอยู่บนฟ้าแล้ว?
ในระหว่างที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับความสูง อยู่ดีๆ สัญญาณเตือนก่อนขึ้นบินก็ดังขึ้น ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่นักบินเป็นอย่างมาก เพราะปกติสัญญาณเตือนก่อนขึ้นบินจะดังเมื่อเครื่องบินยังอยู่บนพื้นเท่านั้น แต่ทำไมถึงมาดังตอนเครื่องบินอยู่บนฟ้าแล้ว?
นักบินจึงติดต่อไปศูนย์ปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อให้วิศวกรช่วยหาสาเหตุ และระหว่างที่กำลังติดต่อกับวิศวกรของศูนย์ปฏิบัติการนั้น อยู่ดีๆ สัญญาณเตือนหลักของเครื่องบินก็ดังขึ้นอีกเสียงเป็นการเตือนว่า บนเครื่องบินนั้นร้อนเกินไปและอาจจะมีระบบไฟฟ้าขัดข้อง
กลายเป็นว่า ในห้องนักบินมีสัญญาณเตือนดังขึ้นด้วยกันทั้งหมด 2 สัญญาณ!!
ด้านห้องโดยสาร ผู้โดยสารส่วนมากยังไม่รู้ว่ามีความปกติเกิดขึ้น จนกระทั่ง หน้ากากออกซิเจนหล่นลงมาจากช่องเก็บหน้ากากออกซิเจนด้านบน! ผู้โดยสารทุกคนต้องรีบคว้ามันมาครอบจมูกไว้เพื่อใช้หายใจโดยที่ทุกคนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้านนักบินยังไม่สามารถหาต้นเหตุที่ทำให้สัญญาณเตือนดังไม่หยุด ส่วนวิศวกรภาคพื้นในศูนย์ปฏิบัติการก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ และขาดการติดต่อกับนักบินไปในที่สุด
ผ่านไป 2 ชั่วโมง เครื่องบินยังคงบินวนลอยอยู่บนฟ้าของกรุงเอเธนส์ โดยยังไม่รู้ถึงสาเหตุของการผิดปกตินี้ ทั้งๆ ที่ปกติการบินจากเกาะไซปรัสไปเอเธนส์นั้นใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ทางศูนย์ปฏิบัติการการบินคิดว่า น่าจะมีการจี้เครื่องบินหรือที่เรียกกันว่า "ไฮแจ็ค"
ในกรุงเอเธนส์มีผู้คนอาศัยอยู่หลายล้านคน ดังนั้นหากเกิดการจี้หรือก่อการร้ายเครื่องบินจริงๆ อาจทำให้เครื่องบินตกลงกลางเมือง และมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากได้ กองทัพอากาศของกรีซจึงส่งเครื่องบินรบเอฟ 16 ขึ้นไปสองลำ เพื่อตามประกบติดและตรวจสอบเครื่องบินเฮลิโอส 522
ทหารที่ขับเครื่องบินรบเอฟ 16 ขึ้นไปพยายามส่งสัญญาณติดต่อนักบินของเฮลิโอส 522 แต่ไม่มี สัญญาณใดๆ ตอบรับ ภาพที่เห็นคือ "ผู้โดยสารทั้งเครื่องสลบไสลคาหน้ากากออกซิเจน"
นักบินก็สลบเช่นเดียวกัน พวกเขาสลบคาแผงควบคุมการบินอย่างน่าแปลกใจ และไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมายังเครื่องบินรบเลย
แต่อยู่ดีๆ ก็ปรากฏร่างผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องนักบิน ….เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?? ทำไมผู้โดยสารทั้งลำ รวมถึงนักบินถึงสลบ แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ?? ทำไมเขาถึงไม่สลบเหมือนกับคนอื่นๆ ? หรือเขาคือผู้ก่อการร้ายที่กำลังจี้เครื่องบิน !?
ทหารบนเครื่องบินรบเอฟ 16 พยายามส่งสัญญาณติดต่อชายผู้นั้นบนเครื่องเฮลิโอส 522 แต่เขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมา
ทันใดนั้นเครื่องเฮลิโอส 522 เริ่มเบี่ยงซ้ายและลดเพดานบินอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ สุดท้าย เครื่องตกลงสู่พื้นดินบริเวณเนินเขาแกรมมาติโก้ เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
แน่นอนว่าทุกคนบนเฮลิโอส 522 เสียชีวิตทั้งหมด ไม่มีใครรอด ….
นี่คือวิบัติภัยที่แปลกประหลาดมาก คณะผู้ตรวจสอบพยายามหาสาเหตุของการตกของเครื่องบินครั้งนี้ทันทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ และนี่นับเป็นอุบัติเหตุทางเครื่องบินที่เลวร้ายที่สุดของกรีซและเป็นปริศนามากที่สุดของโลก มีการไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 3 วัน
สาเหตุของการตกยิ่งดูลึกลับขึ้น เมื่อมีการนำศพผู้โดยสารไปชันสูตร และพบว่า ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ขณะเครื่องกำลังตก (แต่สลบ) ไม่ได้เสียชีวิตตั้งแต่อยู่กลางอากาศ !!
มีการนำเนื้อเยื่อจากที่นั่งของนักบินไปตรวจสอบ และพบว่าเป็นเนื้อเยื่อของ "แอนเดรียส โปรโดรมู" พนักงานต้อนรับของสายการบิน ? ยิ่งสร้างความซับซ้อนให้แก่เรื่องนี้ว่า แอนเดรียส โปรโดรมู เข้าไปทำอะไรในห้องนักบิน และทำไมเขาถึงไม่สลบเหมือนกับคนอื่นๆ เขาพยายามช่วยเครื่องบินให้รอดหรือเจตนาทำให้เครื่องบินตก…?
ต่อมาคณะผู้ตรวจสอบได้กล่องบันทึกเสียงจากห้องนักบินมาตรวจสอบ เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงของแอนเดรียส โปรโดรมู พูดว่า "เหตุฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉิน" …. โดยเสียงของเขานั้นฟังดูอ่อนแรงมากและค่อยๆ แผ่วไปในที่สุด
สรุปเบื้องต้น
อาจสรุปได้ว่า การตกของเครื่องบินครั้งนี้ ไม่ใช่การจี้หรือก่อการร้ายแน่นอน และเมื่อตรวจสอบซากของเครื่องบิน ก็พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้แน่ใจว่าอุบัติเหตุนี้ไม่ใช่การก่อร้าย นั่นก็คือ …. เครื่องบินน้ำมันหมดก่อนตก ดังนั้นการที่น้ำมันหมดคือสาเหตุหลักของการตกของเครื่องบินเนื่องจากบินวนอยู่บนฟ้าเป็นระยะเวลานาน
คำถามต่อมาคือ……
ทำไมเครื่องบินถึงบินวนอยู่บนฟ้า?
ทำไมทุกคนบนเครื่องบินถึงสลบ?
และทำไม แอนเดรียส โปรโดรมู ไม่สลบเหมือนคนอื่นๆ?
คณะผู้ตรวจสอบจึงย้อนดูประวัติการซ่อมของเครื่องบินเฮลิโอสลำที่ตก และพบว่า เครื่องบินเคยประสบปัญหา เรื่องการปรับแรงดันอากาศในเครื่อง นอกจากนี้ประตูท้ายเครื่องยังมีปัญหา ทำให้ไม่สามารถปิดได้สนิท แต่ทั้งหมดนี้กลับไม่ได้รับการซ่อมหรือแก้ไขให้ได้มาตรฐาน
และในที่สุด…การค้นพบสวิตช์ตัวเล็กๆ บนแผงควบคุมหนึ่ง ก็คือกุญแจไขปริศนาทั้งหมด
แผงควบคุมที่ว่าคือแผงการปรับแรงดันอากาศ ซึ่งถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่ง Manual แทนที่จะเป็น Auto โดยปกติแล้ว สวิตช์บนแผงนี้ต้องถูกปรับให้เป็น Auto ตลอดเวลาที่เครื่องบินบินอยู่บนฟ้า เพราะเวลาที่เครื่องบินบินสูงขึ้น สวิตช์นี้จะช่วยให้เครื่องบินดันอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่องอัตโนมัติ ทำให้มีอากาศไหลเวียนและมีออกซิเจนเพียงพอที่จะทำให้ผู้โดยสารหายใจได้
แต่ทำไมสวิตช์นี้ถึงกลายเป็น Manual!!
เมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปจึงพบว่า ในเช้าตรู่ก่อนขึ้นบินนั้น มีวิศวกรเข้าไปตรวจสอบเครื่องบิน และปรับสวิตช์บนแผงควบคุมการปรับแรงดันอากาศจาก Auto เป็น Manual เพื่อตรวจสอบการทำงานของแผงควบคุม แต่ดันลืมปรับสวิตช์กลับเข้าที่! และเมื่อถึงเวลาบิน นักบินก็ไม่ได้สังเกตว่า สวิตช์นั้นไม่ได้ปรับกลับมาเป็น Auto ทำให้ภายในเครื่องบินไม่ได้รับการปรับแรงกดอากาศอัตโนมัติ
แน่นอน….เมื่อเครื่องเฮลิโอส 522 บินสูงขึ้นเรื่อยๆ อากาศภายในเครื่องก็ยิ่งเบาบางลง สัญญาณเตือนจึงดัง ผู้โดยสารรวมถึงนักบินได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้รู้สึกตื้อ วิงเวียน มึนศีรษะ คลื่นไส้ สุดท้าย หน้ากากออกซิเจนก็ตกลงมาจากด้านบน ผู้โดยสารจึงต้องใช้หน้ากากนี้ครอบจมูกและปาก
แต่พวกคุณรู้มั้ยว่าหน้ากากออกซิเจนบนเครื่องบิน มีออกซิเจนเพียงพอสำหรับใช้หายใจได้เพียงพอประมาณ 12 นาทีเท่านั้น
ตอนนี้ ทางผู้ตรวจสอบสามารถค้นพบสาเหตุสำคัญที่ทำให้ทุกคนบนเครื่องบินสลบได้แล้ว นั่นก็คือ แผงควบคุม การปรับแรงดันอากาศในเครื่องบินไม่ได้ถูกปรับสวิตช์จาก Manual เป็น Auto
ปริศนาสุดท้าย
แล้วทำไม แอนเดรียส โปรโดรมู พนักงานต้อนรับชายคนนั้นถึงไม่สลบ เหมือนกับคนอื่นๆ?
จึงได้มีการตรวจสอบประวัติของ แอนเดรียส โปรโดรมู และพบว่า เขาเป็นนักดำน้ำและเคยฝึกหัดขับเครื่องบิน ทำให้สามารถควบคุมการหายใจได้ดีกว่าคนทั่วไป ในระหว่างที่ทุกคนเริ่มสลบ แอนเดรียส โปรโดรมู ที่ยังมีสติ เนื่องจากยังควบคุมการหายใจได้ เริ่มรับรู้ว่าเกิดความผิดปกติจากห้องนักบิน เขาพยายามแบกร่างที่อ่อนล้าจากบรรยากาศที่เบาบางในเครื่องบินเดินตรงไปยังห้องนักบิน
โดยระหว่างที่เดินจากท้ายเครื่องไปยังห้องนักบินที่ด้านหน้าเครื่อง เขาค่อยๆ เดินโดยใช้หน้ากากออกซิเจนของที่นั่งว่างแต่ละที่สูดไปเรื่อยๆ และค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ จนถึงห้องนักบิน
จากนั้นเขาพยายามบังคับแผงควบคุมการบินตามความรู้ที่เคยเรียนมาเพื่อบังคับเครื่องบิน
แต่สุดท้าย เครื่องบินน้ำมันหมดกลางอากาศอย่างน่าเสียดาย เพราะน้ำมันถูกเติมมาสำหรับไฟลท์บิน 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่ในขณะนั้นเครื่องบินได้บินวนมาแล้วเกือบ 3 ชั่วโมง ทำให้เครื่องลดระดับและตกลงที่เนินเขาแห่งหนึ่ง ผู้โดยสาร และลูกเรือทุกคนเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจนี่คือความผิดพลาดของใคร? ใครคือคนที่ประมาทที่สุด?
แต่ที่แน่ๆ เฮลิโอส 522 ได้ถูกเรียกต่อๆ กันมาว่า Ghost Plane หรือเที่ยวบินผีสิงนั่นเอง
ที่มา : Dek-D , nationalgeographic
Post a Comment